ในชีวิตการทำงานการทำธุรกิจ ผมว่าเราต้องมีโอกาสในการที่ต้องไปทานอาหาร Formal Dinner แน่ๆ โดยเฉพาะหากต้องมีการติดต่อค้าขายกับชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวตะวันตก แต่สำหรับคนไทยอย่างเราๆ คงจะไม่คุ้นอย่างแน่นอนครับ กับวิธีการใช้อุปกรณ์ทานอาหารต่างๆที่อยู่บนโต๊ะ ที่มีเกือบจะ 20 กว่าชิ้น
ส่วนตัวผมเคยมีโอกาสในการเข้าคลาสการสอนทานอาหารแบบตะวันตกมาครั้งนึงที่ ประเทศเดนมาร์ค (บริษัทฯส่งไปเทรนครับ) เมื่อประมาณเกือบสิบปีที่แล้ว โดยผู้ที่มาสอน เป็นหญิงชราชาวอังกฤษ ซึ่งเธอเป็นผู้ที่คอยสอนราชวงศ์ต่างๆ และ กลุ่มคนชนสูง ในประเทศยุโรป ในเรื่องของมารยาทและการวางตัวทางสังคม ตอนแรกก็คิดว่ายากครับ แต่หากจำหลักได้ที่เหลือไม่ยากครับ ไม่จำเป็นต้องจำทุกอย่างที่อยู่บนโต๊ะ
หากเราบังเอิญต้องไปทาน Formal Dinner แบบจัดเต็ม เราจะพบกับอุปกรณ์ตามในรูปเลยครับ มีเยอะมาก เห็นแล้วก็งงเป็นไก่ตาแตก แค่แก้วก็ปาไปแล้ว 5 ใบ แต่อย่าเพิ่งตกใจครับ วิธีใช้ไม่ยากอย่างที่คิด ปกติการจัดโต๊ะและอุปกรณ์จะขึ้นอยู่กับเมนูอาหารที่เค้าจะเสริฟ และจะเตรียมไว้ให้พอดี เพราะฉะนั้น จะมีเยอะแค่ไหนก็ไม่ต้องกังวลครับ
หลักในการใช้อุปกรณ์ทานอาหารต่างๆจำง่ายๆดังนี้ครับ
1. จานขนมปัง กับ มีดทาเนย
อยู่มุมซ้ายบนครับ ปกติก่อนเริ่มทานอาหาร เค้าจะเสริฟ ขนมปังให้เราก่อน อาจจะให้หยิบเอง หรือไม่ก็บริกร หยิบมาวางไว้ให้ ขนมปังก็วางไว้ที่จานเล็กๆนั่นแหล่ะครับ ไม่ต้องวางที่จานใหญ่ตรงกลางนะครับ เวลาจะทานก็ค่อยๆฉีกขนมปังทีละนิด ให้ขนาดพอดีครับ อย่ากัดไปทั้งก้อนนะครับ แล้วก็ไม่ต้องเอามีดหั่นขนมปังนะครับ มีเค้าเอาไว้ทาเนย
2. ช้อนส้อม มีด จะแบ่งเป็น 2 ส่วนครับ
ส่วนแรก ที่อยู่ตรงหน้าเราที่มีวางเยอะๆ ไม่ต้องจำละเอียดหรอกครับ อะไรเป็นส้อมปลา ส้อมสลัด เวลาจะทาน จำง่ายๆครับ "เริ่มจากนอกสุดไล่เข้ามาด้านใน" บริกรจะ serve อาหารที่ละ อย่าง เราก็ค่อยๆหยิบไล่เข้ามา ส่วนใหญ่จะเริ่มที่ซุป ถ้าเป็นซุป หยิบช้อนอันขวามือครับก่อนครับ ที่เหลือก็หยิบส้อมกับมีดเป็นคู่ๆ ไล่เข้ามาเรื่อยๆ อาจจะเป็น สลัด แล้วก็ ปลา แล้วก็ main course ที่เป็นพวก เนื้อหมู เนื้อวัว หรือ เป็ด ไก่
ส่วนที่สองจะเป็น ช้อนกับส้อมที่อยู่ด้านบน ตรงนั้นไว้ใช้สำหรับ ขนมหวานครับ ใช้หลังสุด
3. แก้ว
แก้วจะมีค่อนข้างหลายใบ แต่ก็แล้วแต่ว่าเค้าจะเสริฟอะไรบ้าง ถ้าในไทยส่วนใหญ่น่าจะเป็น 2-3 ใบ แต่หลักการใช้แก้วง่ายมากครับ เราไม่ต้องจำอะไรเลย พนักงานบริกร จะจัดการให้เองครับ เค้ารินอันไหน เราก็หยิบอันนั้นแหล่ะครับ เริ่มต้นที่แก้วน้ำเปล่านะครับ แก้วนี้ จะรินตั้งแต่แรก แล้วก็เติมให้ตลอด หลังจากนั้นก็จะมีการ เสริฟเครื่องดื่มอื่นๆ เช่น ไวน์ขาว ไวน์แดง แชมเปญ ซึ่งส่วนใหญ่พนักงานจะไล่ลำดับให้ตามอาหารครับ เช่น เมื่อเสริฟปลา ก็จะรินไวน์ขาวให้ พอเสริฟเนื้อวัว ก็จะรินไวน์แดงให้ ข้อควรระวัง เมื่อเราทานไวน์ขาวเสร็จ บริกรเริ่มรินไวน์แดง เราอย่าไปขอย้อนหลังนะครับ เพราะบางที่เค้าก็อาจจะมีไว้ให้ แต่บางที่เค้าเตรียมไว้พอดีก็อาจจะไม่มี หรือ เค้าอาจจะสงสัย ว่า ทำไมเราทานไวน์ขาวกับเนื้อวัวซึ่งมันอาจจะไม่เข้ากัน แต่ถ้าเป็นในไทย ไม่น่าจะซีเรียสขนาดนั้นครับ
4. เวลาทานอาหารเสร็จในแต่ละจานก็ให้รวบส้อมกับมีด วางคู่กันไว้ที่ เวลา 4.20 (เหมือนเข็มสั้นเข็มยาวของนาฬิกาชี้ไปที่เลข 4 ครับ) ไม่ต้องวางเป๊ะๆขนาดนั้นก็ได้นะครับ แต่วางไว้เฉียงให้ปลายมีดกับส้อมไปทางขวามือเรา
5. ถ้าหากจำไม่ได้จริงๆว่าต้องหยิบชิ้นไหนก่อนหลังก็ไม่ต้องกังวลครับ พอเริ่มทานอาหาร เราก็ค่อยๆยกน้ำดื่มมาค่อยๆจิบ อย่าเพิ่งหยิบอุปกรณ์อื่นๆ รอดูทีท่าของคนอื่นๆบนโต๊ะ แล้วค่อยทำตามครับ จะได้ไม่เขิน หรือไม่ก็ หยิบมือถือขึ้นมาแล้วเข้ามาอ่านข้อความนี้ที่ Page ของ YES Club ครับ
ทำธุรกิจให้ได้ดี ต้องมีความสามารถในการเข้าสังคม และ เข้าใจในความแตกต่างของวัฒนธรรมด้วยนะครับ ครั้งหน้าจะมาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับการไปทานอาหาร กับ ชาวญี่ปุ่นครับ แตกต่างจากอันนี้โดยสิ้นเชิง
หวังว่าคงได้ประโยชน์ไปใช้ในชีวิตประจำวันกันบ้างนะครับ
#yesclub
ARA
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น