เป็นคำถามที่หลายๆคนคงตอบได้อย่างไม่ยาก ที่ลดค่าใช้จ่ายก็เพราะจะทำให้บริษัท มีกำไรเยอะขึ้น แล้วถ้าจะลดค่าใช้จ่ายควรลดอย่างไร ลดอะไรบ้าง เป็นเรื่องที่หลายๆคนอาจจะยังรู้แบบผิดๆ ถ้าตามหลัก ง่ายๆ ค่าใช้จ่ายทุกอย่างควรจะลดให้ต่ำที่สุด เท่าที่ทำได้ แต่บางครั้ง ค่าใช้จ่ายบางอย่างก็ไม่ควรลด โดยเฉพาะถ้าธุรกิจคุณอยู่ในช่วงที่ยอดขายลดลง
คนส่วนใหญ่ พอรายได้น้อยลง ก็รีบที่จะตัดค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อให้มีผลกำไรที่ดี แต่บางครั้งการลดค่าใช้จ่ายกลับทำให้ สถานการณ์ต่างๆแย่ลงไปกว่าเดิม เช่น เมื่อรายได้บริษัทลดลง ผู้บริหารส่วนใหญ่จะสั่งตัดงบประมาณ ของทุกฝ่ายเป็นอันดับแรก หลังจากนั้นก็พุ่งเป้าไปที่ ค่าการตลาด โฆษณา, ค่าใช้จ่ายการขาย, ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน โดยที่บางครั้ง อาจจะลืมไปว่า ลดแค่นิดหน่อยก็พอได้ แต่ถ้าหากตัดงบทั้งหมด สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ บริษัทก็จะไม่มีเครื่องมือที่จะมาช่วยสร้างยอดขาย สุดท้ายสถานการณ์เลวร้ายลงไปกว่าเดิม
บางกรณี บริษัทเข้มงวดมากกับค่าใช้จ่ายแทบจะทุกอย่าง ไฟ, แอร์ ต้องเปิด ปิดเป็นเวลา เวลาจะสั่งพิมพ์กระดาษก็ต้องนับจำนวนให้พอดี โทรศัพท์ก็ตรวจเช็คทุกสาย เข้มงวดจนถึงขั้น พนักงานเกิดความกดดัน สถานที่ทำงานเริ่มไม่สะดวกสบาย เกิดความไม่พอใจในที่ทำงาน ทำงานไปก็ไม่สบายใจ จากเรื่องเล็กๆ กลายเป็นเรื่องใหญ่ โดยเฉพาะพวกค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับพนักงานยิ่งไม่ควรไปลด อย่างเช่น Google บริษัทระดับโลก มีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานในปีนึงหลายสิบล้านเหรียญ และก็ไม่เคยคิดจะลดลง เพราะบริษัทคิดว่า หากพนักงานมีความสุข การทำงานก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น
จริงๆแล้วการลดค่าใช้จ่ายเป็นสิ่งที่ดี แต่การประหยัดหรือลดอะไรนั้น ควรที่จะมองให้รอบด้านถึงสิ่งที่จะตามมา หรือ ต้องถอยไปดูภาพรวมก่อนว่าลดแล้ว ค่าใช้จ่ายโดยรวมลดไปได้มากเท่าไหร่ ทำไปแล้วคุ้มหรือไม่ ไม่ใช่ไปเข้มงวดลดค่าใช้จ่ายกับพนักงานระดับปฏิบัติการที่ลดได้ครั้งละไม่ มาก แต่ผู้บริหารยังใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เช่น ซื้อตั๋วเครื่องก็ต้องไป Business Class สายการบิน Low Cost ก็นั่งไม่ได้ อุปกรณ์การใช้งานส่วนตัวก็ใช้แบบดีที่สุด
สรุปแล้ว การลดค่าใช้จ่ายเป็นสิ่งที่ดี ถ้ามีการวางแผนวิเคราะห์และลดค่าใช้จ่ายอย่างสมเหตุสมผล ไม่ใช่นึกอะไรออกก็ทำแบบไร้ทิศทาง แต่ถ้าอยากจะให้กำไรเยอะ นอกจากจะลดค่าใช้จ่ายแล้ว อย่าลืมหาวิธีไปเพิ่มยอดขายด้วยนะครับ
#yesclub
ARA
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น