วันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2557
3 หลักในการเลือกธุรกิจที่ใช่สำหรับคุณ
คนส่วนใหญ่มีความฝันที่อยากจะทำธุรกิจของตัวเอง อยากจะทำอะไรสักอย่างให้ประสบความสำเร็จ เป็นแหล่งที่มาของรายได้ ที่เพียงพอต่อการใช้ชีวิต หรือ ทำอะไรสักอย่างให้ร่ำรวยเพื่อความเป็นอยู่ที่สะดวกสบายมากขึ้น
คนรุ่น ใหม่ๆสมัยนี้พอเรียนจบมักจะไม่ค่อยอยากไปทำงานเป็นลูกจ้าง แต่กลับจะอยากทำธุรกิจอยากรวย อยากทำอะไรก็ได้ที่รวยเร็ว ก็มักจะซื้อหนังสือต่างๆที่บอกถึงว่า จะทำยังไงให้รวย อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในหุ้น, การซื้อแฟรนไชส์ ทำร้านกาแฟ ร้านอาหาร เปิดร้านล้างรถ และ อื่นๆ อีกมากมาย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้จะประสบความสำเร็จกันทุกคน ซึ่งมีเพียงแค่ส่วนน้อยที่ประสบความสำเร็จจริงๆ
คนที่เป็นพนักงานประจำหลายๆคน ก็พยายามที่จะสร้างสมประสบการณ์ทำงาน และ เก็บเงินให้ได้สักก้อน เพื่อที่จะไปลงทุนในการทำธุรกิจเป็นของตัวเอง หรือ บางคนที่มีคุณพ่อคุณแม่ที่พอมีฐานะ ก็อาจจะได้เงินทุนมาสักก้อนที่จะไปลงทุนในการทำธุรกิจ แต่คำถามคือ จะเลือกทำธุรกิจอะไรดีที่ทำแล้วมีความสุขและได้ผลกำไรด้วย
ผมก็เลยจะขอเสนอแนวคิดในการเลือกธุรกิจให้กับคนที่สนใจในการหาธุรกิจใหม่ๆ ลองไปคิดกันดูนะครับ โดยแนวคิดนี้มาจาก หนังสือ Technology Venture ซึ่งผมใช้ในการสอนนักศึกษา
ในทฤษฎีได้บอกไว้ว่าการเลือกทำธุรกิจที่คุณทำแล้วคุณจะมีความสุขในการทำงานในแต่ละวัน ให้พิจารณาจาก 3 อย่างนี้ครับ
1.ความชอบ และ ความรัก (Interest & Passion)
ลองค้นหาตัวคุณดูครับ ว่าคุณชอบอะไร หรือ รักในการทำกิจกรรมอะไร เช่น ชอบทำอาหารเลยเปิดร้านอาหาร, ชอบเล่นเกมเลยทำธุรกิจเกี่ยวกับเกม, ชอบปั่นจักรยานก็เปิดร้านจักรยาน, ชอบพระเครื่อง ชอบสะสมเหรียญ ก็ทำธุรกิจเช่าพระเครื่อง หรือ ธุรกิจของเก่า... ข้อนี้ เอาจริงๆ คือ พูดง่ายครับ แต่เวลาจะทำจริงๆ ยากมาก เพราะเราไม่รู้ว่าเราชอบมันแค่ไหน รักมันแค่ไหน บางครั้งทำไปกลางทางก็หยุดเอาดื้อๆ เช่น ชอบทำอาหาร แต่ไม่ชอบงานบริการ ไม่ชอบการจัดการ พอเปิดร้านอาหาร ก็จะเจอปัญหาอื่นๆตามมารุมเร้าจนยอมแพ้ไปในที่สุด.. สำหรับบางคนปัญหาในข้อนี้คือ หาไม่ได้ว่าชอบอะไรรักอะไร แต่อย่างไรก็ตาม หากเราอยากจะทำธุรกิจที่เรารักจริงๆ เราต้องพยายามหาให้เจอครับ ถ้ายังหาไม่เจอก็ลอง ทำรายการสิ่งที่ชอบขึ้นมาหลายอย่าง แล้วลองคิดว่า ถ้าเราต้องอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปทั้งชีวิตเราอยากจะทำอะไร
2. ความสามารถ (Capabilities & Skill)
มีแค่ความชอบอย่างเดียวไม่พอครับ ต้องประเมินตัวคุณเองด้วยครับ ว่าคุณทำอะไรได้ดี และคุณมีความชอบและความต้องการที่อยากจะพัฒนาในกิจกรรมที่คุณทำเหล่านั้นให้ ดียิ่งๆขึ้นไปหรือเปล่า เช่น คุณอาจจะชอบทำขนม ทำเบอเกอรี่ และคุณก็ทำได้ดี สิ่งนี้อาจจะเป็นธุรกิจคุณก็เป็นได้ หรือ คุณอาจจะมีความรู้ทางด้านใดด้านหนึ่งจนเรียกได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในหมู่ เพื่อนๆหรือคนใกล้ตัว เช่น มีความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ เครื่องยนต์ หรือ อุปกรณ์แต่งรถ ซึ่งก็อาจจะเป็นอีกธุรกิจที่คุณทำได้ดี บางคนอาจจะมีความรู้ในด้านรองเท้าต่างๆเป็นอย่างดี หรือ อาจจะเป็นคนที่ชอบพูดชอบเขียนชอบสอนคนอื่นๆ ก็อาจจะทำธุรกิจเกี่ยวกับเขียนหนังสือ หรือ การฝึกอบรม หรือ ไปเป็นอาจารย์
บางคนชอบในบางอย่างมากๆ แต่ไม่มีความสามารถในการทำให้ได้ดีกว่าคนอื่น เราจะนำสิ่งนั้นมาทำเป็นธุรกิจก็อาจจะยากที่จะประสบความสำเร็จ เช่น คุณอาจจะชอบดื่มกาแฟมากๆ ก็เลยสนใจที่จะทำธุรกิจกาแฟ แต่คุณทำกาแฟก็ไม่เป็น ความรู้เรื่องกาแฟก็แค่พื้นๆ งานบริการก็ไม่ชอบ จะให้ไปขวนขวายหาความรู้ด้านนี้เพิ่มเติมก็คิดว่าน่าจะยากเกินไป ถ้าเป็นแบบนี้ ธุรกิจกาแฟอาจจะยังไม่ใช่สำหรับคุณ
ในเรื่องของความสามารถเราสามารถฝึกฝนพัฒนาตัวเราเองได้นะครับ สนใจสิ่งไหนก็ไปเรียนรู้มันเลยครับ
3. โอกาส
เมื่อมีทั้งความชอบ ความรักในเรื่องใดเรื่องหนึ่งแล้ว แถมคุณยังมีความสามารถที่ดีอีกด้วย ก็มาดูอย่างสุดท้ายกันครับว่าสิ่งๆนี้น่าจะเป็นธุรกิจที่ใช่ของคุณหรือยัง "โอกาส" อีกส่วนสำคัญที่จะมาเป็นอีกส่วนนึงในการตัดสินใจเลือกธุรกิจ โอกาสในที่นี้หมายถึง ความพร้อมของตลาด นั่นคือ สิ่งที่คุณจะทำนั้นมาในเวลาที่เหมาะสมในตลาด ตลาดกำลังมีความต้องการสิ่งๆนั้นอยู่ และ คุณสามารถที่จะเข้าเสนอสินค้าหรือบริการของคุณเพื่อตอบสนองความต้องการได้ใน ช่วงเวลานั้น และ องค์ประกอบต่างๆภายนอกเอื้ออำนวยในการที่คุณจะเริ่มต้นธุรกิจ เช่น เจอทำเลที่ใช่ที่ถูกใจ, มีแหล่งเงินทุนที่พอจะเริ่มต้นทำธุรกิจ หรือ บังเอิญพบกับหุ้นส่วนที่พร้อมจะมาลงทุนในการทำธุรกิจร่วมกัน
จาก 3 องค์ประกอบดังกล่าว ถ้าหากคุณสามารถรวมทั้งสามอย่างเข้าด้วยกันได้ และหาธุรกิจที่ใช่นั้นเจอ ผมรับรองได้ว่า คุณจะได้ทำในสิ่งที่คุณรักอย่างแน่นอน แต่จะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้น แค่ 3 อย่างนี้ยังไม่พอนะครับ คุณต้องมีหลักในการทำการตลาด การบริหารการจัดการธุรกิจของคุณด้วยครับ
แต่ผมว่าแค่เริ่มต้นหาสิ่งที่ใช่สำหรับคุณได้ คุณก็มีชัยไปกว่าครี่งแล้วครับ เพราะผมบอกได้เลยว่าทุกวันนี้ มีหลายคนที่ลำบากในการค้นหาสิ่งที่ตัวเองชอบ ที่หามาตั้งนานแต่ก็ยังหาไม่เจอ แต่ก็มีบางคนก็จะถามผมว่าเห็นมหาเศรษฐีตั้งหลายคนที่เค้าทำธุรกิจหลายๆอย่าง ซึ่งก็ไม่ใช่สิ่งที่เค้ารักแต่เค้าก็ประสบความสำเร็จได้นะ เพราะพวกเค้าหาโอกาสเป็นหลักและเลือกทำในธุรกิจนั้นไปเลย ความรักความชอบอาจจะไม่ใช่เรื่องสำคัญ ซึ่งในเรื่องนี้ ผมอยากให้ลองพิจารณาดีๆครับ เราจะพบว่า มหาเศรษฐีเหล่านั้น บางทีเค้าอาจจะชอบในเรื่องการค้าขาย ขายอะไรก็ได้ขอให้ได้ขาย และ สิ่งที่เค้าทำได้ดีเป็นพิเศษก็คือ การขายของและการสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่นๆรอบข้าง.. บางครั้งสิ่งที่คุณรักหรือชอบอาจจะไม่ใช่ตัวธุรกิจนั้นๆ แต่มันอาจจะเป็นกิจกรรมที่คุณได้ทำในธุรกิจนั้นๆก็เป็นได้ครับ
ข้อดีของการทำสิ่งที่คุณชอบและคุณทำได้ดี คือ คุณจะไม่รู้สึกท้อ หรือ เหน็ดเหนื่อยในการทำงานครับ ลองดูพวกนักวิ่งมาราธอน หรือ นักกีฬาทั้งหลายซิครับ กีฬาวิ่งมาราธอนเป็นอะไรที่เหนื่อยมากลำบากมากๆ คนไม่ชอบวิ่งก็จะบอกว่าไปวิ่งทำไมให้เหนื่อย นักกีฬาเหล่านี้ต้องซ้อมและวิ่งเป็นอย่างมาก ซึ่งพวกเค้าจะรู้สึกว่า ยิ่งเหนื่อยยิ่งสนุกยิ่งมีความสุข...
ทฤษฎีนี้ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้เราลองนำหลักการไปคิดทบทวนดูครับ เผื่อว่าคุณจะค้นพบธุรกิจที่คุณจะหลงรักและอยู่กับมันได้อย่างมีความสุข
ARA
#yesclub
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น