วันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2557
Change OR Die: KFC กำลังจะแย่แล้วครับ !!
ในปี 1999 KFC มีส่วนแบ่งในตลาด fastfood ในอเมริกา ประเภทไก่สูงถึง 40% ขณะที่ Chick-fil-A มีแค่ 9%..
แต่ปัจจุบัน สถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้วอย่างสิ้นเชิง คู่แข่งที่เคยเป็นรายเล็กๆอย่าง Chick-fil-A ได้กลายเป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่ง 26% ส่วน KFC อดีตผู้นำกลับมีส่วนแบ่งตลาดลดลงเหลือเพียง 22% ในปี 2013 Chick-fil-A มียอดขายทั้งหมด 5 พันล้านเหรียญ ขณะที่ KFC มี 4.2 พันล้านเหรียญ และ เมื่อดูจำนวนสาขาในอเมริกาของทั้งคู่แล้ว พบว่า KFC มีสาขาสูงถึง 4491 สาขา แต่ Chick-fil-A มีแค่เพียง1775 สาขา
ในยุคสมัยนี้ ใหญ่แค่ไหนถ้าไม่เปลี่ยนตัวเองให้ทันโลก ยึดติดกับความสำเร็จเดิมๆ ผลในระยะยาวก็จะเป็นอย่าง KFC ในเรื่องนี้ ซึ่งกลยุทธ์หลัก 3 ข้อ ที่ทำให้ Chick-fil-A สามารถขึ้นมาเป็นที่หนึ่งมียอดขายรวมที่สูงกว่า KFC ทั้งๆที่มีสาขาน้อยกว่าเกือบสามเท่า ก็คือ
1. กลุ่มเมนู อาหารเช้าที่ออกมาค่อนข้างโดนใจผู้บริโภค และ ตลาดอาหารเช้าในกลุ่ม Fastfood ของ อเมริกาถือว่าใหญ่มาก เนื่องจากคนที่นั่นมีวัฒนธรรมในการทานอาหาร ประเภทนี้เป็นอาหารเช้าอยู่แล้ว ถึงแม้ KFC จะมีกลุ่มเมนูนี้เช่นกันแต่ก็ทำมาไม่โดนใจผู้บริโภค
2. เมนู และ สินค้า ที่แตกต่าง และ ดีกว่า เช่น แซนวิชไก่ หรือ เบลเยี่ยมฟรายส์..(คนที่นั่นคงเบื่อเฟร้นช์ฟรายส์แล้ว) นอกจากนั้นยังมี ไอศกรีม มิลค์เชค และพวกเมนูสำหรับอาหารเย็น. และ ที่เด็ดที่สุด ก็เป็น Campaign การตลาดที่ให้ผู้บริโภคหันมาทานไก่ แทนเนื้อวัว ซึ่งก็คือให้เปลี่ยนจากทานแฮมเบอร์เกอร์ มาเป็น แซนวิชไก่แทน (จริงๆหากดูจากรูปมันก็คือ เบอร์เกอร์ไก่ในไทยแหล่ะครับ แต่เค้าเรียกกัน Chicken Sandwich) ทำให้ Chick-Fil-A สามารถแย่งลูกค้าได้ทั้งจาก KFC และ McDonald
3. โอกาสในการขยายสาขาอีกมาก ที่ผ่านมา Chick-fil-A เน้นการขยายแบบ focus เลือกเฉพาะในพื้นที่ ที่มีความมั่นใจ ภูมิภาคไหนยังไม่มั่นใจ ก็ไม่ขยาย และ เน้นในการปรับปรุง พัฒนา สินค้า บริการ เพื่อเพิ่มยอดขายต่อสาขา และในที่สุด ยอดขายต่อสาขาก็มากกว่า คู่แข่งกว่า 3 เท่า และในตอนนี้ Chick-fil-A ก็คงจะพร้อมที่จะขยายสาขาได้อีกมาก เพราะหากเทียบจำนวนสาขากับ KFC หรือ McDonald แล้วนั้น โอกาสในการขยาย ยังมีพื้นที่ให้โตอีกเยอะมาก
จากกรณีดังกล่าว จะเห็นได้ว่า หากองค์กรหรือแบรนด์ใด หยุดการสร้างสรรค์พัฒนาสิ่งใหม่ๆ ต่อให้คุณจะใหญ่สักแค่ไหน ในระยะยาว คุณจะต้องพบกับปัญหาอย่างแน่นอน และ อีก บทเรียนที่ได้จากกรณีนี้คือ ลูกค้าสำคัญที่สุด คุณต้องเน้นในการหาสิ่งที่ลูกค้าต้องการและสร้างความแตกต่างให้ได้ เหมือนที่ Chick-fil-A ได้นำเสนอให้กับผู้บริโภคในอเมริกา
ถึงเราจะมาใหม่ มาทีหลัง เล็กกว่า ใช่ว่าเราจะต้องเป็นรองเสมอไป การสร้างความแตกต่างจะทำให้คุณไปสู่ความสำเร็จ และสำเร็จคนที่เป็นผู้นำอยู่แล้ว การเปลี่ยนแปลง ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ จะเป็นสิ่งที่สำคัญที่ทำให้คุณเป็นผู้นำได้ตลอดไป
#yesclub
ARA
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น