วันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2557
จุดตายธุรกิจ
ดูหนังมาหลายเรื่องโดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับยอดมนุษย์สัตว์ประหลาด หรือไม่ก็เอเลี่ยน จุดนึงที่สังเกตเห็นทุกครั้งคือจะต้องมีจุดอ่อน จุดอ่อนขนาดทำให้เสียหายขั้นสุดถึงขนาดต้องแพ้หรือต้องเสียชีวิตได้ เลยลองมาดูชีวิตความเป็นจริงกันบ้างก็ รู้สึกแบบเดียวกันว่าในชีวิตคนเราหรือการทำธุรกิจต่างๆ แต่ละธุรกิจจะมีจุดตายของแต่ธุรกิจอยู่ในตัว ซึ่งเรียกว่าความเสี่ยง ความเสี่ยงบางอย่างไม่สาหัส ความเสี่ยงบางอย่างถือว่าสาหัส และความเสี่ยงบางอย่างทำให้ตัวธุรกิจต้องปิดตัวและขาดทุนในที่สุด เท่าที่ผมนึกออกจะมีอยู่ 8 อย่าง
1 คน: จุดตายของหลายๆธุรกิจที่ใช้คนเป็นหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจบริการ หรือว่าโรงงานต่างๆ ในแต่ละวันคุณจะเจอปัญหาเกี่ยวกับการจัดการเรื่องคนเป็นอย่างมาก สำหรับธุรกิจบริการนั้นไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลที่มีหมอ พยาบาล, ธุรกิจล้างรถ ที่มีพนักงานล้างรถ, ธุรกิจร้านกาแฟที่ต้องมีบาริสต้า, ธุรกิจร้านอาหารที่มีเชฟฝีมือดี, ธุรกิจอาบอบนวดที่มีหมอนวดหน้าตาดี เหล่านี้คือธุรกิจที่จุดตายอยู่ที่คนทั้งนั้น หมอดังๆย้ายไปอยู่โรงพยาบาลอื่น คลินิกอื่น ลูกค้าก็จะย้ายตามไปด้วยเพราะติดใจ เชฟที่ทำอาหารถูกใจพอย้ายร้านไปอยู่ที่อื่นลูกค้าที่ชอบในรสชาติก็จะย้ายไป เป็นลูกค้าร้านอื่นด้วย เหล่านี้เป็นจุดตายของธุรกิจที่ใช้คน
2 เงินทุน: จุดตายอีกอย่างนึงซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยคือธุรกิจที่ใช้เงินทุน ต้องใช้เงินหมุนตลอด ต้องใช้เงินจำนวนมากในการทำธุรกิจ ส่วนใหญ่จะเป็นการขายของที่ต้องแบกสต็อกสินค้า การผลิตสินค้าต่างๆ การซื้อมาขายไป ถึงแม้คุณจะได้เครดิตเทอมจากผู้ขาย แต่นานวันหากคุณไม่สามารถปล่อยของได้เร็ว สินค้าจะค้างสต็อคเมื่อสินค้าที่ค้างสต็อกคุณจะต้องนำเงินก้อนใหม่มาซื้อของ รวมถึงจ่ายเงินให้กับลูกน้องต่างๆ และแย่สุดคือเมื่อถึงเวลาจ่ายเงินให้กับผู้ขายสินค้า (Supplier) คุณจะทำได้สองอย่างคือ 1 หมุนเงินจากธุรกิจอื่นจากที่อื่นจากคนรอบๆตัว และ 2 หมุนสต็อคสินค้ารีบปล่อยให้เร็วที่สุดเพื่อเอาเงินเข้ามา และแย่มากๆคือถ้าคุณค้าขายเกี่ยวกับสินค้าแฟชั่นหรืออุปกรณ์ไฮเทค สินค้าเหล่านี้ต้องการ turnover ที่เร็วมาก เพราะเมื่อไรแฟชั่นหรือความฮิตของแฟชั่นหรือสินค้าเทคโนโลยีนั้นๆผ่านไป ต่อให้คุณลดราคายังไงก็หาคนซื้อยาก ไม่เชื่อลองไปถามคนขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ตอนช่วงน้ำท่วมดูได้ ร้านค้าคอมพิวเตอร์เหล่านั้นขายไม่ได้เป็นเวลา 3-6 เดือน ต่อให้สินค้าไม่เสียหาย แต่มันตกรุ่นไปแล้ว ไม่มีคนต้องการสินค้าตกรุ่นในราคาเต็มอีกต่อไป
3 เทคโนโลยี: ธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีมากๆเมื่อครั้งใดที่มีการเปลี่ยน platform การทำธุรกิจ ทำให้ธุรกิจของคุณอยู่ในจุดตายเช่นเดียวกันไม่เชื่อลองไปดู Kodak, Microsoft, Nokia, Motorola, TOT, Blackberry และอื่นๆอีกมากมายที่เป็นที่ 1 ในรูปแบบเทคโนโลยีอย่างนึงแต่พอเปลี่ยนรูปแบบของเทคโนโลยี ดังนั้นการเปลี่ยนตัวและปรับตัวให้เข้าอย่างรวดกับธุรกิจที่อิงกับเทคโนโลยี จึงมีความจำเป็นมากๆเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอด
4 ความได้เปรียบทางธุรกิจ: ธุรกิจที่ไม่มีข้อได้เปรียบทางธุรกิจคือธุรกิจที่ไม่สามารถสร้างข้อต่อรอง ทางธุรกิจใดๆได้มาก ไม่ว่ากับทางผู้ผลิต หรือผู้ซื้อ ยกตัวอย่างเช่นธุรกิจพ่อค้าคนกลาง หรือนายหน้า ที่ไม่มีสินค้าเป็นของตัวเอง ถ้าธุรกิจเหล่านั้นไม่มีข้อได้เปรียบบางอย่างผูกมัดผู้ซื้อหรือผู้ขายไว้ ไม่นานผู้ซื้อและผู้ขายจะทำการซื้อขายกันเองเมื่อนั้นธุรกิจของคุณจะไม่มี ประโยชน์ใดๆในห่วงโซ่ ดังนั้นถ้าคุณอยู่ในธุรกิจนี้ จงหาทางสร้างความได้เปรียบซะไม่ว่ากับทางผู้ขายหรือผู้ซื้อ และถ้าความได้เปรียบไม่ได้อยู่กับคุณมันจะไปอยู่กับคนอื่น และนั่นยิ่งทำให้คุณทำธุรกิจแข่งขันลำบากมากขึ้น
5 ความแตกต่าง: ธุรกิจที่ไม่มีจุดต่างเช่นสินค้าเกษตรกรรม สินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ เหล่านี้หากคุณมีสินค้าเหล่านี้ในมือและไม่มีความแตกต่างใดๆ ราคาจะเป็นตัวแปรสำคัญ คนที่ขายได้ถูกที่สุดจะได้ขายสินค้าได้ (แต่อาจจะเหลือกำไรที่บางมาก) คุณลองคิดดูว่าสินค้าเกษตรต่างๆ หิน ดิน ทราย แทบจะทำความแตกต่างกันเรื่องรายละเอียดของสินค้าได้น้อยมากยกเว้นว่าคุณจะ สร้างความแตกต่างให้กับสินค้าเหมือนกับน้ำดื่มซึ่งเป็นสินค้าที่ไม่มีความ แตกต่างเช่นกัน
6.โลเคชั่น: ธุรกิจที่ต้องเน้นสถานที่มากๆไม่ว่าจะเป็นธุรกิจร้านค้าต่างๆ ธุรกิจอาหาร ที่จำเป็นต้องมีโลเคชั่นดีๆแต่โลเคชั่นดีๆกลับมีความเสี่ยงมากเช่นกันเพราะ โลเคชั่นดีๆนั้นใครๆก็อยากได้ และพร้อมจะจ่ายมากกว่าเราเพื่อให้ได้ที่ดีๆเปิดร้านขายของ เจ้าของสถานที่ก็รู้ดีทุกครั้งครบสัญญาเช่าเจ้าของที่จึงมักจะขึ้นราคาอยู่ ตลอดทำให้ผู้เช่าต้องแบกรับค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นตลอดและในกรณีแย่สุด ทางเจ้าของที่เห็นว่าร้านของคุณขายดี เค้าอาจจะโก่งราคาค่าสถานที่จนแพงมากๆจนคุณต้องย้ายออกเพราะต่อให้ขายดีแค่ ไหนคุณก็จะแบกค่าเช่านั้นไม่ได้ และเจ้าของที่ก็จะเปิดธุรกิจเดียวกับคุณแทน เรียกได้ว่าให้คุณเป็นหนูทดลองก่อนถ้าขายดี เค้าก็จะอยากเปิดเอง
7.ทรัพยากรธรรมชาติ: สำหรับธุรกิจที่ต้องพึ่งพากับทรัพยากรธรรมชาตินั้นตัวแปรสำคัญเลยคือตัว ทรัพยากรธรรมชาติที่มีวันหมดไปได้ ไม่ว่าจะเป็นสถานท่องเที่ยวสวยๆ ทะเลใสๆ หรือว่าธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์ อาหารทะเล สัตว์ทะเลที่เลี้ยงไม่ได้ หรือแม้แต่พลังงานแร่ธาตุต่างๆเช่นน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ซึ่งจะสำคัญกับธุรกิจมากๆหากวันใดทรัพยากรธรรมชาติเหล่านั้นหมดไปและทำให้ ความได้เปรียบของธุรกิจของคุณก็จะหมดตามไปด้วยหากไม่ได้ปรับตัวเตรียมรับมือ ไว้แต่เนิ่นๆ
8. แทนที่ได้ด้วยอินเตอร์เน็ต: หลายธุรกิจที่ทำได้ดีมากๆในยุคที่อินเตอร์เน็ตไม่เฟื่องฟู เทคโนโลยียังไม่เข้าถึงคนหมู่มากเหมือนทุกวันนี้ ซึ่งคนสามารถใช้อินเตอร์เน็ตได้ทุกที่ผ่าน notebook, smartphone, tablet ซึ่งทำให้การแข่งขันของบางธุรกิจเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ยกตัวอย่างเช่น ร้านถ่ายรูป ร้านหนังสือ ถ้าคุณอยู่ในธุรกิจเหล่านี้หรืออยู่ในธุรกิจที่อินเตอร์เน็ตเข้ามาแทนที่ได้ คุณต้องรีบหาทางรับมือไว้อย่างด่วน หรือไม่ธุรกิจของคุณอาจถูกทิ้งไว้เบื้องหลังครับ
มาถึงตรงนี้แล้ว ลองมองย้อนถึงธุรกิจที่คุณทำอยู่ หรือหากใครที่กำลังวางแผนธุรกิจเพื่อจะลงทุน ลองนึกถึงความเสี่ยงต่างๆและจุดตายของธุรกิจของคุณด้วย บางทีเราอาจจะมองแค่ด้านดีของธุรกิจมากเกินไป และละเลยความเสี่ยงและจุดตายเหล่านี้ เพราะเมื่อมันมาถึงคุณจะรับมือมันลำบากมาก และในขั้นแย่สุดคุณอาจจะเจ๊งได้ทันทีครับ
Mr.N
#Yesclub #จุดตายธุรกิจ #ความเสี่ยงธุรกิจ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น