วันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2557
วิจัยการตลาดสำคัญไฉน
ตั้งแต่เริ่มเรียนวิชาการตลาดวิชาแรก ก็ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำวิจัยการตลาด ตอนนั้นยังไม่เข้าใจว่าทำไปทำไม ยังทำเล่นๆ เอาแบบสอบถามไปกรอกเองมั่ง อยากได้คำตอบอะไรก็กรอกๆไป บางครั้งได้คำตอบก่อนจะทำแบบสอบถามเสร็จอีก (ไม่ดีนะ ครับห้ามทำตาม) พอโตมามากๆขึ้นได้ทำงานที่ต้องเกี่ยวข้องกับการวิจัยการตลาดโดยตรง ทำให้เข้าใจขึ้นมากๆ ทุกข้อมูลที่ได้มามีประโยชน์ในการทำงานไม่มากก็น้อย แต่ดีกว่าที่ไม่มีเลยแน่ๆ ตราบใดที่ข้อมูลในมือเรายังไม่มีมากพอจะตัดสินใจอะไร จะเข้าใจอะไรในภาพรวมหรือประเด็นย่อย หรือยังมีอะไรที่ต้องการจะรู้อีก การวิจัยการตลาดจะยังมีความสำคัญอยู่
วิจัยการตลาดคืออะไร
ถ้าคำว่า search แปลว่าค้นหา คำว่า research ก็คือการค้นหาอีกรอบ ค้นหาซ้ำๆ ค้นหาจนกว่าจะเจอสิ่งที่ต้องการ ประเด็นหลักในการทำวิจัยการตลาดให้ดีคือ 1. ตั้งคำถาม และ 2.หาคำตอบ ง่ายๆเท่านี้เลย ตราบใดที่สามารถตั้งคำถามได้ถูกต้อง เราก็จะหาวิธีหาคำตอบให้สอดคล้องกับคำถาม ตลอดทางที่ผ่านมาผมเจอคนที่ตั้งคำถามผิดมาเยอะมากทำให้สุดท้ายตอนคำตอบออกมา ก็ไม่สามารถตอบข้อสงสัยได้ และในกรณีที่แย่คือเสียเงินเปล่า เพราะต่อให้หาคำตอบที่ถูกต้องได้แต่กลับไม่ทำให้เกิดประโยชน์ใดๆ
หลักการง่ายๆ
ที่ผมบอกว่าการวิจัยตลาดมีความสำคัญแต่ไม่ได้หมายความว่าอ่านบทความนี้ แล้วจะรีบติดต่อไปยังบริษัทวิจัยเพื่อทำการวิจัยการตลาดให้บริษัท หรือให้กับธุรกิจของคุณทันที การที่ให้บริษัทวิจัยมาช่วยนั้นเป็น 1 ในหลายๆวิธีเท่านั้นเอง แต่ประเด็นสำคัญเลยอย่างที่บอกไปคือการตั้งคำถาม หากคุณลองตั้งคำถามขึ้นมาแล้ว ให้ถามคำถามที่ลึกขึ้นมากขึ้นไปเรื่อยๆ ตั้งสมมติฐานของสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น พยายามซอยย่อยคำถามให้มากที่สุด และเมื่อคุณได้คำถามที่ละเอียดมากๆ ทุกๆคำตอบที่คุณจะหามาได้ จะตอบคำถามย่อยๆจนรวมกลายเป็นคำตอบใหญ่ได้ ยิ่งคุณตั้งสมมติฐานมากขึ้นเท่าไร ตั้งคำถามมากขึ้นเท่าไร การทำการวิจัยการตลาดนั้นจะเข้าเป้ามากขึ้นตามเป็นเงาไป และเมื่อเราได้คำถามที่ถูกต้องแล้ว เราจะเริ่มมองเห็นทางว่าเราควรจะหาคำตอบยังไง
คำตอบอยู่ที่ไหน
1. หาข้อมูลเองเลยครับ ง่ายเลยครับข้อมูลอยู่รอบๆตัว คุณจะลอง search ข้อมูลต่างๆผ่าน internet ก่อนก็ได้เพื่อความรวดเร็ว และเดี๋ยวนี้ข้อมูลหลายๆอย่างก็มีอยู่ใน internet เรียบร้อย ลองใช้เวลาค้นหาดูซักหน่อย ลองๆไล่ไปตามคำถามที่เราตั้งขึ้นมาทีละข้อๆ อันไหนหาได้ลองโน้ตเอาไว้ หาไปเรื่อยๆได้คำตอบแค่ไหนก็ถือว่ามีแค่นั้น
2. หาข้อมูลเองอีก แต่ทีนี้เราลองถามคนรอบๆข้าง ถามผู้รู้ ถามผู้บริโภคโดยตรง ไป observe จริงตามสถานที่ที่เกี่ยวข้อง การไปคุยกับร้านค้าต่างๆ ทำให้ได้ข้อมูลเชิงลึกมากๆ และจะได้ข้อมูลที่มีประโยชน์มากๆ อาจจะขัดกับสิ่งที่คุณรับรู้มาตลอดก็เป็นได้ ตลอดทางที่ผ่านมาคุณอาจจะมั่นใจว่าสินค้าคุณดีมาก มีประโยชน์สุดๆ แต่พอไปถามผู้บริโภค หรือตามร้านค้าเองกลับได้คำตอบที่แตกต่างออกไป คุณจะได้กลับมาแก้ไขให้ถูกต้องได้ วิธีนี้ผมชอบมากและใช้เป็นแนวทางหลักในการทำงานมาโดยตลอดครับ
3. จ้างบริษัทวิจัยตลาดมาทำ อันนี้ง่ายขึ้นครับ แลกกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นครับ ส่วนผลขึ้นอยู่กับมุมมองของนักวิจัย และโจทย์คำถามที่เราตั้ง
4. กึ๋น ไม่ใช่ถามกึ๋นนะครับเพราะคงไม่ได้คำตอบอะไรกึ๋นไม่สามารถสื่อสารได้ แต่ผมกำลังหมายถึงความเก๋าส่วนตัวของคนๆนั้น เจ้าของธุรกิจใหม่ๆอาจจะไม่มีประสบการณ์ขนาดใช้กึ๋นใช้ความเก๋าในการตัดสิน ใจได้ การใช้วิธีอาจจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี แต่หากใครก็แล้วแต่ที่เดาใจผู้บริโภคได้ออกการใช้กึ๋นใช้ความเก๋าในการ ตัดสินใจจะส่งผลมากๆ ผมยกตัวอย่าง Steve Jobs กับ Apple เค้าเองไม่เคยใช้วิจัยการตลาดเลย แต่เค้ามองผู้บริโภคออกว่าต้องการอะไรครับ
ใครจำเป็นบ้าง
จริงๆไม่ว่าใครก็จำเป็นนะครับสำหรับการทำวิจัยการตลาด ยกเว้นว่าคุณจะรู้คำตอบอยู่แล้ว อันนั้นไม่จำเป็นต้องทำ แต่สำหรับคนไม่รู้นั้นควรครับ เพราะหากคุณติดกระดุมผิดตั้งแต่เม็ดแรกคุณจะติดผิดไปตลอดจนเม็ดสุดท้ายและ ท้ายสุดคุณจะได้ผลลัพธ์ที่เป็นลบกับแผนธุรกิจหรือนำไปสู่การตัดสินใจที่ไม่ ดี
ยังไงต่ออีก
แล้วต้องเชื่อทุกอย่างที่แบบสอบถามบอกมั้ย ต้องเชื่อทุกอย่างที่ผู้บริโภคบอกรึเปล่า ผมบอกเลยว่าไม่ครับ เอ้าไม่เชื่อแล้วไปถามทำไมให้เสียเวลา เสียเงินเสียทอง จริงๆผมต้องบอกว่าข้อมูลเป็นเรื่องหนึ่ง คุณจำเป็นต้องเอามาประเมิน คิดวิเคราะห์เพิ่มเติมอีกและในหลายๆครั้งผู้บริโภคนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้อง การอะไร เราจำเป็นต้องจับให้ออกว่าลูกค้าต้องการอะไร คำพูดต่างๆ ท่าทางต่างๆ คำถามเชิงจิตวิทยา รูปถ่ายที่เอามาโชว์ให้ดู การแต่งตัว ความคิด ความฝัน ทัศนคติ ลักษณะบุคลิก การดำเนินชีวิต ปัญหาต่างๆ จะเป็น non-verbal ที่มีประโยชน์มาก เราจำเป็นต้องชั่งน้ำหนักระหว่างสิ่งที่ผู้บริโภคบอก กับการวิเคราะห์ประเมินในหัวของคุณและแปลงมันเป็นกลยุทธ์แปลงเป็นคำตอบที่ดี ให้กับคุณเองครับ
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด
ทำวิจัยการตลาดให้เหมาะสมกับธุรกิจ ทำให้เหมาะกับเหตุการณ์ ธุรกิจที่ขนาดไม่ใหญ่มากไม่มีความจำเป็นต้องดูภาพรวมของทั้งประเทศ ไม่จำเป็นต้องดูภาพรวมมากมาย แต่ให้มากพอที่คุณจะทำธุรกิจแล้วเดินต่อได้ ตัดสินใจต่อได้ กำหนดคำถามให้ถูกต้องจะส่งผลกับคำตอบที่จะหามาได้ การหาข้อมูลเพื่อตัดสินใจนั้นสามารถทำได้ด้วยตัวคุณเองโดยที่ไม่ต้องเสีย เงินแม้แต่บาทเดียว หรือจะเสียเงินหลายแสนหลายล้านบาทให้กับบริษัทวิจัยที่น่าเชื่อถือช่วยคุณหา ข้อมูลได้ การตัดสินใจอยู่กับคุณ ผลลัพธ์อยู่กับคุณ กำไรขาดทุนอยู่กับคุณ และเงินทุนอยู่กับคุณ ข้อมูลไม่มีผิดไม่มีถูก ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคุณตัดสินใจครับ
Mr. N
#yesclub #research #insight #วิจัยการตลาด #วิจัยการตลาดสำหรับSME
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น