วันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2557

หลุมพรางของการเริ่มทำธุรกิจ



สำหรับผู้ที่เป็นพนักงานไม่ว่าจะกินเงินเดือนประจำหรือเป็นรายวัน ความฝันหนึ่งของพนักงานคือการออกมาทำอะไรเอง เป็นของตัวเอง เป็นเจ้านายตัวเอง มันคือแดนมหัศจรรย์อย่างหนึ่ง ณ วันที่ผมยังทำงานประจำอยู่ ผมมักจะคุยกับคนรอบๆ ข้างเกี่ยวกับเรื่องนี้เสมอ การได้เดินตามทางที่ฝัน ได้ทำสิ่งที่ทำเป็นเรื่องที่ท้าทายและสนุกเสมอ (อย่างน้อยก็สำหรับผม 55) แต่หนทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป (และส่วนใหญ่จะเจอหนามกุหลาบมากกว่ากลีบกุหลาบ) แต่เส้นทางที่จไปถึงปลายทางนั้น มีหลุมพรางเยอะมาก หลุมพรางที่ให้เราเฉออกนอกเส้นทาง ทำให้ตกหลุมไป หรือแม้แต่ล้มเลิกเดินกลับทางเดิม

ใจ เสียงรบกวนจากคนอื่น

อย่าไปทำเลย ธุรกิจแบบนี้ ทำไปก็เจ๊งเปล่าๆ เสียเวลาน่ะ เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่ามั้ย ดูคนนู้นคนนี้สิ เค้าทำงานเติบโตไปถึงไหนแล้วนี่มาทำอะไรแบบนี้เสียอนาคต อย่าไปทนอีกเลย พอเหอะ กลับไปทำงานประจำดีกว่า เสียงเหล่านี้ทำให้ใจเราหวั่นไหวมากๆ เดิมทีที่เริ่มธุรกิจมาก็มั่นใจ เวลาผ่านไปไม่เป็นไปอย่างที่คิด เสียงเหล่านี้ยิ่งดังขึ้น ดังขึ้นเรื่อยๆ แต่อย่าให้มันดังกลบเสียงของเราเองนะครับ เคยมีคนบอกผมอย่างนึง ล้มเหลวไม่มีหรอก มีแต่ล้มเลิก ทุกวันนี้คำนั้นยังวนอยู่ในหัวผมตลอด ถึงแม้ระหว่างทางจะมีเสียงดังแบบนั้นวนเข้ามาในหัวบ้าง ใจของเราสำคัญที่สุด เมื่อไรที่คิดจะหยุด ลองมองกลับไปที่จุดเริ่มต้นนะครับ ทำไมเราถึงเลือกทางนี้ เดินทางมาไกลขนาดนี้

แผนงานและแผนสำรอง

แผนงานสำคัญมากๆ และแผนสำรองยิ่งมีความสำคัญ ตอนเราเริ่มวางแผนใหม่ๆ อาจจะมีความมั่นใจมากๆผสมเข้าไปว่าจะต้องไปได้ดีจริงๆจนไม่เหลือที่ให้ สำหรับแผนสำรอง ทุบหม้อข้าวเป็นการแสร้งแรงจูงใจที่ดี แต่ในความจริงแล้วแผนสำรองจำเป็นมาก เพราะว่าสุดท้ายแล้วสิ่งที่เราคิดไว้มักไม่เป็นไปตามนั้น เราจะเจอความท้าทายตลอดทางและแผนต้องเปลี่ยนตลอด จนบางทีแผนสำรองที่เตรียมไว้เยอะมาก ก็ยังไม่พอรับมือกับเหตุการ์ณต่างๆ สำหรับธุรกิจแล้วไม่มีอะไรแน่นอน ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน จงเตรียมตัวรับมือเตรียมแผนสำรองไว้เยอะๆครับ และอีกอย่างนึงที่สำคัญคือแนวทางการทำธุรกิจ ต้องชัดเจนนะครับ อย่าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา จากอุดมการณ์ตอนเริ่มพอธุรกิจไม่เป็นไปอย่างเราหวัง เราก็จะเริ่มเปลี่ยนตัวเองไปทำอย่างอื่น เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา จนสุดท้ายเราจะงงกับแนวทางและจะท้อเองไปในที่สุดครับ

เงินทุน

การหมุนเงิน การไม่ได้วางแผนการเงินอย่างรอบคอบ มีส่วนอย่างมากทำให้ใจเราเสียทรงไปได้ พอคิดว่ารายได้จะเข้ามาภายในเท่านั้นเท่านี้เดือน แต่พอถึงเวลาจริงๆ เงินทุนเริ่มร่อยหรอ การลงทุนเริ่มน้อยลง ความมั่นใจเริ่มหายไป เงินที่เตรียมไว้เริ่มไม่พอ เริ่มหยิบยืนคนใกล้ตัว ทำเรื่องกู้ธนาคาร และหากยังไม่ไหว สุดท้ายเราก็จะล้มเลิกไป และกลับไปทำงานประจำในที่สุด

การจดทะเบียนบริษัท

สำหรับหลายๆคนที่เปลี่ยนตัวเองมาเป็นผู้ประกอบการ จะเริ่มด้วยการจดทะเบียนบริษัทก่อนเลย ไม่ใช่เรื่องไม่ดีนะครับในการจดทะเบียนบริษัท จริงๆต้องบอกว่าเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำ แต่การจดทะเบียนนั้นอาจยังไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนที่สุดในการเริ่มธุรกิจ ด้วยความยุ่งยากในการจดทะเบียน การคัดหาชื่อที่เหมาะสม รายได้ที่ยังไม่แน่นอน เอกสารต่างๆ เงินจดทะเบียน ผมเคยครั้งนึงจะไปจดทะเบียนบริษัท ทางเจ้าหน้าเองก็ถามผมตรงๆเลยว่ามีลูกค้าแล้วหรอ ถ้ายังไม่มีลองทำดูก่อนก็ได้ เพราะเวลาจดเลิกลำบากนะ แถมเสียเงินเสียค่าใช้จ่ายเยอะด้วย เยอะกว่าตอนจดทะเบียนเริ่มด้วยซ้ำ ซึ่งผมก็ว่าจริงนะครับ เพราะหลังจากที่เราจดทะเบียนบริษัทแล้วไม่ว่าจะในรูปแบบใด เราจำเป็นต้องทำบัญชีรายรับรายจ่าย และยื่นทำเรื่องเสียภาษีประจำปี ถึงแม้จะไม่มีรายได้ซักบาท สำหรับข้อนี้หลายคนอาจจะเห็นต่าง แต่สำหรับผมถ้าเกิดยังไม่ได้ติดต่อค้าขายกับบริษัทใหญ่ที่จำเป็นต้องเดิน ธุรกิจในรูปแบบบริษัทด้วยกันเท่านั้น ผมยังอยากให้การจดทะเบียนบริษัทเป็นเรื่องสำคัญรองๆ เพราะวันนึงที่มีลูกค้าพร้อม รายได้ที่มั่นคง การจดทะเบียนจะไม่ใช่เรื่องลำบากเลยครับ

ออฟฟิต/ อุปกรณ์ / พนักงาน

จากคนที่เคยทำงานในออฟฟิต เมื่อออกมาแล้วความคุ้นเคยกับการมีออฟฟิตยังอยู่ อุปกรณ์สำนักงานต่างๆด้วย จำเป็นต้องมีหมด โทรศัพท์ แฟกซ์ เครื่องสำเนาเอกสาร คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต อุปกรณ์เครื่องเขียน สมุด กระดาษ โต้ะทำงาน หรือแม้แต่พนักงานที่จะมาช่วยงานทุกอย่างถูกวาดไว้อย่างสวยงาม แต่ความเป็นจริงแล้ว พวกนี้คือต้นทุนที่สูงมาก สำหรับคนที่พึ่งเริ่ม บางอย่างอาจจำเป็น บางอย่างอาจยังไม่จำเป็น หากคุณโซโลเดี่ยวในตอนแรก ออฟฟิตอาจจะยังไม่จำเป็น (ยกเว้นว่าธุรกิจนั้นจำเป็นต้องมีออฟฟิตเพื่อต้อนรับลูกค้า) แต่คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ หรือ ปริ้นเตอร์ อาจจะมีความสำคัญมากกว่า สำหรับผมแล้วผมเลือกที่จะเสียเงินกับส่วนนี้ให้พอเหมาะที่สุด อะไรยังไม่ใช้ก็จะยังไม่ซื้อเพิ่ม นอกจากค่า overhead ที่ต้องลงทุนเยอะมาก หากคุณต้องทำออฟฟิตด้วย แน่นอนค่าเช่าและค่าตบแต่งจะกินเงินส่วนนี้ไปเยอะพอสมควร แต่ถ้าจำเป็นก็ต้องใช้นะครับ ยิ่งหากมีการจ้างพนักงานมาด้วยแล้ว จะให้มาทำงานที่บ้านเราหรือที่ที่ไม่เหมาะสมกับการทำงานคงไม่ได้ (ใจเค้าใจเรา เราก็อยากทำงานในออฟฟิตที่ดูดี สะดวกสบาย) ส่วนเรื่องพนักงาน ก็จะขึ้นกับความมากน้อยของงานกับออฟฟิตที่มี หากในตอนแรกยังไม่เยอะมาก ผมยังอยากเสนอให้ทำเองไปก่อน และ outsource service ข้างนอกให้ได้มากที่สุด (หรือไม่ก็ขอคนรอบๆตัวมาช่วยกันก่อนครับ 55)

คน แผนก

การวางแผนไว้ว่าธุรกิจที่เราจะทำมีหลายแผนกเป็นเรื่องดีครับเพราะว่าจะได้ เป็นระบบระเบียบ เหมือนกับตอนเราทำงานในบริษัท ซึ่งมีแผนกต่างๆคอย support งานของบริษัท มีฝ่ายการเงินคอยดูเรื่องการเงิน มีฝ่ายบัญชีคอยดูแลเรื่องบัญชี มีฝ่ายขาย ฝ่ายการตลาด และอีกหลายๆฝ่ายคอยช่วยให้งานในบริษัทเดินได้อย่างถูกต้อง แต่กับงานของเราเอง ถ้าทุนไม่เยอะ ลืมไปก่อนเลยครับเพราะต้องใช้เงินลงทุนเยอะมาก และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความจำเป็นมีมากน้อยแค่ไหน ในระยะแรก เราเองต้องเป็นทุกอย่าง คิดงาน ลงมือทำ ดูตัวเลข ทำบัญชี อาจจะมีบางอย่างที่พอจะจ้างคนนอกมาช่วยได้บ้าง ดังนั้นอย่าพึ่งคิดไปไกลว่างานของเราต้องมีครบทุกแผนก แต่ขอให้มีพอที่งานจะเดินได้ก่อนแล้วค่อยๆขยายๆไปทีละนิดจะดีกว่าครับไม่ งั้นลงทุนเยอะจะเสียขวัญตอนรายได้ยังไม่เข้ามาแน่ๆครับ ดังนั้นคนเริ่มทำธุรกิจนั้นจะต้องทำได้ทุกอย่างทุกแผนกเรียกได้ว่าครบ เครื่องเลยทีเดียวละ

ชื่อเสียง

ตอนยังทำงานอยู่ ยิ่งบริษัทใหญ่ๆ การติดต่ออะไรจะดูง่ายไปหมด การใช้ชื่อบริษัทใหญ่ๆขอความช่วยเหลือจาก agency ต่างๆดูไม่ใช่เรื่องยากอะไร การต่อรองราคา การคุย scope งานดูจะง่ายไปหมด แต่พอเราต้องลงเรือลำเล็ก การต่อรองกับคู่ค้าต่างๆกลับด้านกันหน้ามือเป็นหลังมือ credit term ต่างๆโดนกดจนสุดตัว ราคาที่เคยได้ดีๆวันนี้เป็นอีกเรื่องนึง ดังนั้นผู้ประกอบการณ์ใหม่อาจจะต้องระวังเรื่องนี้ไว้ด้วยครับ นอกจากนี้หากคิดจะจ้างพนักงานมาช่วย ชื่อเสียงสำคัญมาก มีน้อยคนที่อยากจะมาอยู่กับบริษัทเล็กๆที่ยังไม่ได้พิสูจน์อะไร ไม่มีความแน่นอนทางการเงิน สินค้ายังไม่ติดตลาด ต้องใช้ใจมากๆนะครับ

สุดท้ายสำหรับผู้ที่เตรียมพร้อมจะออกมาแล้ว ถ้าเราคิดอย่างรอบคอบแล้ว อย่ากลัวที่จะก้าวครับ เรามีชีวิตเดียว และไม่รู้อนาคตว่าเราจะมีวันพรุ่งนี้ได้อีกกี่วัน อย่าให้สุดท้ายคุณมาเสียดายกับเวลาและโอกาสที่ผ่านไปโดยที่คุณไม่ได้ทำอะไร ที่คุณอยากทำ ครั้งหนึ่งในชีวิตทำให้เต็มที่ สู้ให้สุดใจครับ และเราจะเดินไปพร้อมกันครับ

Mr. N
#yesclub #หลุมพรางการทำธุรกิจ #เริ่มธุรกิจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น