วันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2557
Differentiate and Die
ตั้งแต่หนังสือ Differentiate or Die ของ Jack Trout ตีพิมพ์มา ผมในฐานะนักการตลาดคนนึง ได้ถือหนังสือเล่มนี้เป็นหนึ่งในคัมภีร์การทำการตลาดและทำแบรนด์มาอย่างต่อ เนื่องซึ่งหนังสือเล่มนี้ให้แง่คิดดีๆมาก คิดว่าหลายๆคนคงมีโอกาสได้ อ่านแล้ว แต่สำหรับคนยังไม่ได้อ่านอยากให้ลองหามาอ่านดูซักครั้ง เพราะถึงจะตีพิมพ์มานานแล้วแต่หลักการต่างๆยังสามารถเอามาใช้ได้แบบไม่เคอะ เขินและใช้ได้จริงในการทำงาน ไม่เว้นแต่การเอามาประยุกต์ใช้กับธุรกิจส่วนตัวได้ด้วยเช่นกัน
Jack Trout ได้บอกว่าการที่ธุรกิจหรือแบรนด์ของเรานั้นไม่มีความแตกต่างกับคู่แข่งเลยทำ ให้ธุรกิจหรือแบรนด์นั้นมีโอกาสสูงจะไม่ประสบความสำเร็จและต้องเอาออกจาก ตลาดไปในที่สุด ดังนั้นสิ่งที่ Jack Trout มุ่งประเด็นไปเลยคือเรื่องการสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจและแบรนด์เพื่อ สร้างเวทีให้เกิดการจดจำและจะมุ่งไปสู่ยอดขายที่มากขึ้นตามลำดับ
แต่จากประสบการณ์มาสิ่งที่เจอกับตัวเองนั้นต้องบอกว่าสินค้าใหม่ๆธุรกิจ ใหม่ๆนั้นมากกว่า 80% มีโอกาสไม่รอดทั้งนี้มาจากออกสินค้าใหม่โดยที่ไม่ยอมแตกต่างและแตกต่างจาก ที่ตลาดมี “อ้าวทำไมแตกต่างแล้วยังไม่รอดอีกละ” คุณอาจจะถามแบบนี้ คำตอบผมคือ differentiate and die อ่านไม่ผิดครับ differentiate and die หรือ แตกต่างแล้วยิ่งแย่ ง่ายๆเลยนะครับ การแตกต่างสามารถสร้างจุดขายให้ธุรกิจหรือแบรนด์ได้ ผู้บริโภคเองก็สามารถจดจำได้ แต่ประเด็นเลยคือ แตกต่างแล้วเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการรึเปล่า ถ้าไม่ใช่ก็จบเลยครับ คุณลองนึกๆดูสินค้าหลายๆอย่างหรือแม้กระทั่งโฆษณาหลายๆตัว สามารถความแตกต่างอย่างมาก สามารถสร้างความจดจำได้ดี คนพูดถึงเยอะมาก และคนรู้จักเยอะมาก เพียงแต่ความแตกต่างนั้นไม่ได้มีความจำเป็นสำหรับผู้บริโภคให้จ่ายเงินซื้อ เลย
ขอยกตัวอย่างคลาสสิคเรื่องนึง ก็คือ New Coke และ Crystal Pepsi เป็นตัวอย่างการตลาดที่คลาสสิคมาก ทั้งสองสินค้าเป็นการทำสินค้าตัวใหม่ออกมาการทำวิจัยออกมาดีมาก ดีกว่าสินค้าเดิมที่วางขายอยู่อย่างชัดเจน ผู้บริหารสรุปให้ออกสินค้าใหม่แทนตัวเดิมทันที และหลังจากวางสินค้าใหม่เพื่อจะแทนตัวเก่าได้ไม่นานก็ต้องรีบเก็บออกจากชั้น วางสินค้าทันที ไม่ต้องถามนะครับว่ามันสำเร็จหรือไม่ คำตอบคือไม่ครับ เพราะอะไรทำไมสินค้าที่แบรนด์ยักษ์ใหญ่ทำวิจัยออกมาเยอะมากกลับไม่สำเร็จ ง่ายๆเลยครับ แตกต่างแต่ไม่โดน ผู้บริโภคไม่ต้องการ ผู้บริโภคยังคงยึดติดกับรสชาติเดิม สินค้าเดิมและยังเชื่อว่าในเมื่อสินค้าเดิมยังขายดีและรสชาติยังดีอยู่ เค้าไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องเปลี่ยน และเมื่อไรที่ผู้บริโภคไม่ต้องการ นั่นคือหายนะเลยครับและนั่นเป็นจุดที่เสี่ยงมากๆสำหรับการออกสินค้าใหม่ สำหรับคนทำธุรกิจทั้งหลายครับ ยังมีตัวอย่างดังๆอื่นๆอีกมากนะครับเช่น น้ำเปล่าสำหรับสุนัขหรือสัตว์เลี้ยง, บุหรี่ที่ไม่มีควัน, แชมพูโยเกิร์ต
ดังนั้นทุกครั้งก่อนออกสินค้าใหม่ ลองถามตัวคุณเองอีกทีว่า สินค้าที่คุณคิดว่ามันแตกต่าง ผู้บริโภคนั้นต้องการจริงๆ หรือคุณคิดไปเองว่าผู้บริโภคเหล่านั้นต้องการ? ไม่เสมอไปที่ differentiate or die คุณอาจจะ differentiate and die ก็เป็นได้ครับ
Mr.N
#yesclub #ออกสินค้าค้า #differentiate or die #differentiate and die
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น