ช่วงนี้เป็นช่วงที่ผมเห็นคนรอบๆตัวลาออกจากงานประจำมากันเยอะมาก ไม่ว่าจะลาออกเพื่อไปทำงานที่อื่นหรือลาออกเพื่อไปทำธุรกิจส่วนตัว หรือแม้กระทั่งลาออกมาพักผ่อนออกมาตั้งหลักก่อน แต่ไม่ว่าจะลาออกมาทำอะไร ผมเองได้คุยกับหลายๆคนที่มีความคิดจะลาออก หลายคนยังถามกลับมาด้วยว่าลาออกต้องเตรียมตัวอะไรอีกก็แค่ยื่นใบลาออก อีก30วันก็จบแล้ว สำหรับผมแล้วทุกอย่างมันจะต่างจากเดิมไปเลย ยกเว้นแต่ว่าคุณจะลาออกเพื่อไปทำงานประจำที่อื่นคุณก็แค่เปลี่ยนที่ทำงาน เปลี่ยนเพื่อนร่วมงานรวมถึงหัวหน้า แต่จริงๆแล้วสำหรับคนที่จะออกไปทำงานอย่างอื่น อยากไปทำธุรกิจส่วนตัวเองนั้นจะต้องเตรียมพร้อมหลายๆอย่างมาก เราจำเป็นต้องเตรียมตัวก่อนลาออกยังไงบ้างมาดูกันเลย
1. ไม่มีรายได้จากงานประจำแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือน โบนัส ค่ารักษาพยาบาล ค่าเดินทาง ค่าโทรศัพท์ โอทีต่างๆ แต่ในขณะที่ค่าใช้จ่ายต่างๆคุณยังต้องจ่าย คุณต้องกินข้าว ต้องผ่อนรถ เช่าบ้าน ผ่อนบ้าน ซื้อเสื้อผ้าของใช้ต่างๆ ประกันรถ ประกันสุขภาพ ประกันชีวิต ค่าน้ำมัน ค่าโทรศัพท์ อินเตอร์เน็ต ค่าเคเบิ้ลทีวี ค่าไฟค่าน้ำ ส่วนใหญ่แล้วหลายๆคนไม่ค่อยได้คิดถึงประเด็นเรื่องค่าใช้จ่ายประจำเดือน ต่างๆก่อนออกจากงานประจำเท่าไร ทำให้หลังจากออกจากงานประจำมาทำให้เกิดอาการเครียด เงินตึงมือ แล้วคุณจะทำยังไงกับรายจ่ายเหล่านี้ละ ผมแนะนำเลยว่าให้คุณเตรียมเงินให้พร้อมที่จะรับมือกับค่าใช้จ่ายเหล่านี้ให้ เพียงพอ 6-12 เดือน เช่นว่าถ้าคุณมีรายจ่ายเหล่านี้เป็นจำนวนเงิน 20,000 บาทต่อเดือน ดังนั้นคุณควรมีเงินสดติดมือไว้อย่างน้อย 120,000 บาท เพราะในกรณีฉุกเฉินที่คุณยังหางานไม่ได้ หรือธุรกิจที่คุณอยากจะทำนั้นยังไม่ได้ทำเงินให้คุณอย่างที่คิด
2. ไม่มีกฎเกณฑ์ การไม่มีกฎเกณฑ์มันดีไม่ใช่หรอ หลายๆคนบอกว่ามันเป็นข้อดีต่างหากได้ทำอะไรอิสระทำอะไรตอนไหนก็ได้จะตื่นกี่ โมงก็ได้ ผมก็เห็นด้วยนะ แต่ถ้าคุณไม่ตั้งกฎเกณฑ์ให้กับตัวเอง ไม่ตั้งเวลาในการทำงาน ไม่มี deadline สำหรับงานแต่ละอย่าง คุณจะใช้เวลามากกว่าเดิมมากในการทำให้แต่ละเรื่องสำเร็จ ดังนั้นถึงแม้ว่าคุณจะมีอิสระในการทำงาน แต่คุณก็ต้องมีกฎเกณฑ์สำหรับตัวคุณเอง ว่าอย่างน้อยวันนึงคุณจะทำอะไรเท่าไรอย่างไรบ้าง
3. ไม่มีหัวหน้า ข้อนี้หลายๆคนบอกเลยว่าชอบมากเพราะปกติแล้วหัวหน้าเป็นไม้เบื่อไม้เมาในที่ ทำงานและหลายๆคนก็มีปัญหากับหัวหน้า แต่ผมกำลังจะบอกว่าการทำงานที่ไม่มีหัวหน้าเป็นเรื่องดีและไม่ดี เรื่องดีก็อย่างที่ทุกคนรู้ 55 แต่เรื่องที่ไม่ดีคือหัวหน้าถึงแม้เราจะไม่ชอบ แต่ว่าด้วยประสบการณ์ต่างๆ การตัดสินใจต่างๆนั้นหลายๆทีก็เป็นบทเรียนดีๆสำหรับเราและหลายๆทีหัวหน้าจะ เป็นคนรับผิดชอบต่อการตัดสินใจต่างๆที่เกิดขึ้น ไม่เหมือนการทำงานทำธุรกิจของตัวเองนั้นเราจำเป็นต้องตัดสินใจเอง รับผิดชอบเอง รับผิดชอบต่อความเสียหายที่จะเกิดขึ้นทั้งหมดเอง
4. ไม่มีสังคมในออฟฟิตที่ทำงาน แน่นอนหลังจากคุณเดินออกจากบริษัทออกมาทำงานส่วนตัวที่บ้าน คุณเสียโอกาสการมีสังคมในที่ทำงานไป สังคมคุณจะน้อยลง (ยกเว้นว่าคุณเป็นคนมีเพื่อนเยอะอยู่แล้ว หรือว่าไปทำธุรกิจใหม่กับคนจำนวนมาก) คุณอาจต้องหาสังคมใหม่ๆมาทดแทนสังคมการทำงานที่คุณจะมีเพื่อนเยอะแยะ เช่นการไปเข้าอบรม การไปเรียนรู้ เข้าเป็นสมาชิกของสมาคมต่างๆ หรือไปทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้สามารถเจอคนเจอสังคมที่กว้างขึ้นมาชดเชย
5. ไม่มีการเรียนรู้จากคนในออฟฟิตและการอบรมเทรนนิ่งต่างๆ ซึ่งการเรียนรู้จากคนในออฟฟิตจะมีประโยชน์มากๆ เราสามารถเรียนรู้การทำงาน วิธีคิดจากคนในออฟฟิตของเราได้และสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับสิ่งที่เราเป็น เพื่อพัฒนาตัวเราเองรวมถึงการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ต่างๆด้วย นอกจากนี้หลายๆบริษัทจะมีการอบรมเทรนนิ่งพนักงานเป็นประจำ (สำคัญเลยคือสำหรับพนักงานจะฟรี!!!!) แต่เมื่อเราออกมาเราจำเป็นต้องขวนขวายเรียนรู้เรื่องต่างๆเองและอาจไปอบรม เพิ่มเติมในสิ่งที่คุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเพื่อต่อยอดกับธุรกิจที่คิดจะทำ
6. มีปัญหากับครอบครัวและที่บ้านแน่นอน ถ้าคุณออกจากงานโดยไม่เคลียร์เรื่องนี้กับที่บ้านก่อน ยิ่งทางบ้านเป็นครอบครัวสมัยก่อนที่ยังไม่เข้าใจสถานการณ์การลาออกจากงาน ประจำ ดังนั้นก่อนจะลาออกสิ่งแรกเลยคือต้องเคลียร์กับคนทางบ้าน
ไม่งั้นคุณจะมีปัญหาตามมาตลอดจนกว่าคุณะพิสูจน์ได้ว่าคุณทำได้สำเร็จแค่ไหน
7. มีไอเดียเต็มไปหมด แต่ไม่รู้อันไหนต้องทำก่อนอันไหนต้องทำหลัง อันไหนสำคัญ
อันไหนไม่สำคัญ มีไอเดียธุรกิจเยอะมาก แต่ไม่รู้จะทำอะไรดี และที่แย่คือไม่รู้จะทำไอเดียให้เป็นจริงได้ยังไง ดังนั้นก่อนการตัดสินใจลาออกมา คุณลองวิเคราะห์ไอเดียต่างๆ หาข้อมูล หาความรู้ให้ได้มากที่สุดก่อนจะลาออกมา เพราะหลังจากการลาออกมาแล้วคุณต้องยืนบนขาตัวเอง ความกดดันต่างๆจะแตกต่างจากตอนคุณยังมีรายได้ประจำมากๆ
8. มีเวลาเยอะมาก จนบางทีเราไปเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่อง เรื่องส่วนตัว เรื่องของคนรอบข้าง แต่ไม่เหลือเวลาให้เรามานั่งคิด มานั่งทำสิ่งที่เราอยากทำ ดังนั้นต้องจัดการเวลาให้ดีๆ อย่าให้การลาออกมาไม่สามารถใช้ประโยชน์จากการมีเวลาเยอะๆได้
ดังนั้นก่อนที่คุณลาออกไปอย่าลืมเช็คความพร้อมของตัวคุณดีๆว่าพร้อมจะลาออก ไปใช้ชีวิตในแบบของคุณเองแล้วรึยัง การลาออกไม่ใช่เรื่องง่าย (แต่ไม่ยากถ้าคุณเตรียมพร้อม) ขอให้โชคดีกับการลาออกครับ
#YESClub
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น