วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2557

Business Model Canvas - โมเดลธุรกิจ เปลี่ยนโลก !!


หากจะพูดถึงการทำธุรกิจ หลายๆท่านคงจะนึกถึง การทำแผนธุรกิจ ที่เป็นเหมือน คัมภีร์ในการดำเนินธุรกิจ และ กลยุทธ์ต่างๆให้ได้ตามแผนที่วาง ไว้ ในอดีต การทำโมเดลธุรกิจ ไม่มีแบบแผน ไม่มีต้นแบบ แต่ละคนก็ design กันเอาเองตามใจชอบ ในมหาวิทยาลัย ก็ยังไม่ค่อยมีการสอนในเรื่องของการทำ โมเดลธุรกิจ กันสักเท่าไหร่

จนเมื่อประมาณปี 2008 ก็มี หนังสือชื่อ Business Model Generation ออกมาวางตลาด และ มีการนำเสนอ concept ที่เรียกว่า Business Model Canvas, แม่แบบการทำโมเดลธุรกิจ หรือ ผืนผ้าใบโมเดลธุรกิจ. ทฤษฎีนี้เกิดขึ้นจากการทำงานและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันของผู้ประกอบการกว่า 470 คน จาก 45 ประเทศทั่วโลก

หลังจากนั้นเป็นต้นมา Business Model Canvas ก็เป็นที่นิยม และ เริ่มใช้ตามองค์กรใหญ่ และ กลุ่ม Startup (ผู้ประกอบการหน้าใหม่) จนตอนนี้ก็มาถึงไทยเป็นที่เรียบร้อย มีหนังสือแปลขายหาได้ตามร้านหนังสือทั่วไป แต่ก็ยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมใช้ในองค์กรต่างๆ ยกเว้นกลุ่มคนรุ่นใหม่ๆ ที่เริ่มนำไปใช้กันแล้ว

Business Model Canvas คือ สิ่งที่จะมาช่วยในการอธิบายให้เราเข้าใจในธุรกิจขององค์กรในภาพรวมทั้งหมด เข้าใจว่าองค์กรนำเสนออะไรให้ก ับลูกค้า ส่งให้เค้าอย่างไร ผลิตอย่างไร มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้นทุนมีอะไรบ้าง และ รายได้จะมาจากทางใดบ้าง เรียกได้ว่า มีแค่กระดาษแผ่นนี้แผ่นเดียว คุณก็จะเข้าใจ ธุรกิจของคุณทั้งหมดในทันที

ในโมเดลธุรกิจจะมี ส่วนประกอบอยู่ 9 อย่างที่เราต้องพิจารณาครับคือ
1. Value Proposition (การเสนอคุณค่า)
กำหนดคุณค่าของสินค้า หรือ บริการของคุณขึ้นมา ว่า คุณค่าอะไรเป็นสิ่งที่คุณจะนำเสนอให้กับลูกค้าของคุณ

2. Customer Segments (กลุ่มลูกค้า)
กำหนด กลุ่มลูกค้าของคุณขึ้นมา ว่าเค้าเหล่านั้นเป็นใคร

3. Channels (ช่องทางการส่งมอบสินค้า, บริการ)
ช่องทางการขาย และ การส่งมอบสินค้าและบริการของคุณ ไม่ว่าจะเป็น การขายหรือให้บริการผ่านหน้าร้าน, ออนไลน์ ,ขายผ่าน retailers, delivery หรือ ไปรษณีย์

4. Customer Relationships (ความสัมพันธ์กับลูกค้า)
การสร้างความสัมพันธ์ของคุณกับลูกค้าของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการมีพนักงานคอยดูและ การสร้างแบรนด์, การทำบัตรสมาชิก การติดต่อส่งข้อมูล หรือ ให้บริการหลังการขาย

5. Revenue Stream (รายได้)
รายได้ของคุณมาจากอะไรบ้าง มาจากที่ไหน ได้มาอย่างไร จะมีมากหรือน้อยแค่ไหน ต่อวัน ต่อเดือน ต่อปี

6. Key Resources (ทรัพยากรหลัก)
ทรัพยากรหลักที่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจและส่งมอบคุณค่าให้ลูกค้า อาจจะเป็น เงินทุน, ที่ดิน, เครื่องจักร, คน หรือ วัตถุดิบต่างๆ

7. Key Activities (กิจกรรมหลัก)
กิจกรรมหลักอะไรบ้างที่คุณต้องทำเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่คุณจะนำเสนอให้ลูกค้า อาจจะเป็นเรื่องของการผลิต การสร้างnetwork แผนการขายการตลาด

8. Key Partners (คู่ค้าที่สำคัญ)
คู่ค้าหลักๆของคุณมีใครบ้างที่จะเป็นส่วนช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ อาจจะเป็น Supplier และ คู่ค้าที่จะมาช่วยในการผลิต ในการขนส่ง หรือ อื่นๆ

9. Cost Structures (โครงสร้างต้นทุน)
สุดท้าย ต้นทุนของคุณมีอะไรบ้าง ไม่มว่าจะเป็น พวกต้นทุนคงที่ต่างๆเช่น เงินเดือน ค่าเช่า หรือ ต้นทุนผันแปร ต่างๆในการผลิตสินค้า และรวมไปถึงค่าใช้จ่ายต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นในการทำธุรกิจนี้

การทำโมเดลธุรกิจอันนี้ จะมีหลักในการทำงานง่ายๆครับ แค่คุณเข้าใจก่อน ว่ามีส่วนประกอบอะไรบ้างใน โมเดลธุรกิจ หลังจากนั้น ก็ทำตารางโมเดลธุรกิจเปล่าๆไว้ แผ่นใหญ่ๆ เป็นลักษณะคล้ายๆผืนผ้าใบ (เค้าเลยเรียกว่า Canvas ครับ) เสร็จแล้วก็เตรียม กระดาษโน้ตแพดเอาไว้ แล้วก็พอเขียนอะไรในหัวข้อในก็เอาไปแปะในช่องนั้นๆ ค่อยๆทำไปทีละเรื่อง นึกอะไรออกก็แปะไปทีละช่องจนเต็ม เสร็จแล้วก็มารีวิว กันอีกที บางคนก็ใช้เป็นการวาดรูปแทนการเขียน ซึ่งก็ใช้งานได้เช่นกัน

โมเดลธุรกิจ มันมีประโยชน์มากๆครับ ไว้ใช้ในการมองภาพรวมของธุรกิจที่เรากำลังจะทำ หรือ กำลังทำอยู่ และ เราสามารถนำสิ่งนี้ไปต่อยอดสิ่งสำคัญต่างๆได้อีกมากมาย ใช้ง่าย ประหยัดเวลา ง่ายกว่าทำแผนธุรกิจเยอะเลยครับ แต่ได้ผลดีไม่แพ้กัน ผมว่า ดีไม่ดี ได้ผลดีกว่าการทำแผนธุรกิจอีกครับ

ไม่แน่ใจว่ามีเพื่อนๆในเพจสนใจเรื่องนี้กันหรือเปล่าครับ หากมีคนสนใจ ไว้ผมจะมาเล่ารายละเอียดในแต่ละขั้นตอนให้อ่านกันอีกเรื่อยๆครับ ใครสนใจช่วยลง คอมเม้นไว้ให้ด้วยนะครับ ขอบคุณมากๆครับ คราวหน้าจะได้เอาตัวอย่างมาให้ดูกันครับ

ARA
#YESClub
#BusinessModel

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น