คนที่ทำธุรกิจเองหรือคนที่กำลังเริ่มทำธุรกิจทุกคนจะทราบว่าช่วงที่ยากที่สุดคือช่วงเริ่มต้น
ทุกอย่างเริ่มจากศูนย์ ไม่รู้ว่าจะทำอะไรก่อนหลัง ทำไปแล้วจะถูกใจลูกค้ามั้ย
ขายแล้วจะมีคนมาซื้อมั้ย ผิดกฏหมายอะไรรึเปล่า หรือจะสูญเงินโดยใช่เหตุมั้ย
ยังไม่นับเรื่องเวลาที่ต้องลงทุนลองผิดลองถูกไปอีก
ซึ่งปัญหาเหล่านี้ทำให้หลายคนไม่กล้าเริ่ม หรือเริ่มแ ล้วหยุดตรงนั้น
แล้วไม่เดินต่อเลย วันนี้ผมลิสต์วิธีการเริ่มต้นธุรกิจโดยไม่ต้องเริ่มใหม่
ถือเป็นทางด่วนให้ต่อยอดไปได้เร็วขึ้น ลองมาดูแต่ละวิธีเลยครับ
1. ซื้อหรือเซ้งธุรกิจ
การทำธุรกิจก็มีทั้งคนในอยากออก คนนอกอยากเข้า
หลายธุรกิจมีความจำเป็นที่เจ้าของเดิมไม่สามารถไปต่อได้
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่
การเซ้งธุรกิจก็ถือเป็นทางเลือกนึงที่ดีสำหรับผู้เริ่มต้นแบบไม่ต้องเหนื่อย
ตัวผมเองเคยคิดจะเซ้งธุรกิจ 2 -3 อย่าง
เจ้าของเดิมตั้งใจจะขายด้วยเหตุผลยอดฮิตคือธุรกิจยังดีอยู่แต่ต้องไปเรียนต่อเมืองนอก
ตอนนั้นได้คุยกับเจ้าของเดิมแล้วรู้สึกว่าไม่น่าเชื่อถือ เลยไม่ได้เซ้งมาทำ ภายหลังพบว่าตัดสินใจถูกแล้ว
เพราะธุรกิจนั้นปิดตัวลงไปจริงๆ
ในการเซ้งธุรกิจที่ดีนั้น
เราควรมีแผนการชัดเจนว่ามันจะเกื้อหนุนกับสิ่งที่เราทำอยู่
หรือความชอบส่วนตัวของเรายังไง
รวมถึงสิ่งที่เราคิดว่าจะได้มาจากการเซ้งธุรกิจคืออะไร เช่น ฐานลูกค้าเดิม
ระบบการทำงาน โลเคชั่นที่ดี แต่บอกตามตรงว่าค่อนข้างหาดีๆ ได้ยาก
เพราะถ้าของดีจริง เจ้าของเดิมจะปล่อยทำไม ยกเว้นจะไปเรียนต่อเมืองนอกจริงๆ
ใช่มั้ยครับ อิอิ
2. ต่อยอดจากกิจการที่บ้าน
สำหรับท่านมีกิจการเดิมของที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นโรงงานบริษัทร้านค้า
รวมถึงเทือกสวนไร่นาของท่านด้วย
แน่นอนว่าการจะต่อยอดจากกิจการเดิมของที่บ้านจะมีอุปสรรคในเรื่องของแนวคิดของคนสองรุ่น
รวมถึงระบบการจ่ายผลตอบแทน
เราใช้ธุรกิจเดิมของที่บ้านได้โดยการยืมปัจจัยการผลิต
มาทำสินค้าเราเอง (จ้างที่บ้านผลิต)
หรือยืมฐานลูกค้าที่บ้านที่รู้จักครอบครัวเราเป็นอย่างดี
มาเป็นฐานลูกค้าเริ่มต้นของเราที่จะนำเสนอสินค้าใหม่ที่เราขายเอง (ขอยืมมือเตี่ยหาลูกค้า)
ในส่วนเกษตรกรรม ผมก็เห็นว่าปัจจุบันนี้มีหลายแห่งพัฒนาสินค้าจนเกิดเป็นมูลค่าเพิ่ม
ส่งออกไปเมืองนอกได้เยอะแยะ เช่น บางรายจากเดิมขายข้าว
ปัจจุบันก็เพิ่มมูลค่าแล้วขายสินค้าได้ราคามากขึ้น เป็นต้น
3. ต่อยอดจากลูกค้าเดิมหรือคนรอบข้าง
บางทีลูกค้าเราอาจจะซื้อสินค้าบางอย่างกับเราเป็นประจำ
จนเราลืมมองข้ามไปว่าชีวิตนี้เค้าคงไม่ได้ใช้ของแค่อย่างเดียว
ถ้าเราได้ลองถามลูกค้าเดิมของเราสักนิด ก็จะหาทางต่อยอดสินค้าเราได้ เพราะไหนๆ
เราก็รู้จักเค้าแล้ว การสั่งซื้อสินค้าอื่นๆ จากเราคงไม่เป็นปัญหาอะไร
เพราะเราเชื่อใจกันแล้ว
นอกจากนี้เรายังสามารถขายสินค้าที่เพื่อนเราต้องการได้อีกด้วย แนวทางนี้ผมไม่ได้ให้ขายเพื่อนอย่างเดียวนะครับ
แค่เรามองว่าเพื่อนเราเป็นคนกลุ่มแบบไหน เราก็หาธุรกิจที่คิดว่าคนกลุ่มนี้จะซื้อหรือใช้บริการ
เช่น เพื่อนเราแต่งงาน มีลูก เลี้ยงสัตว์ ชอบท่องเที่ยว ชอบขี่จักรยานฟิกเกียร์
เป็นต้น
4. ซื้อแฟรนไชส์
วิธีนี้สำหรับท่านที่มีเงินลงทุนสูงพอสมควร และยอมรับความเสี่ยงได้
ก็น่าจะเป็นวิธีที่ดี ในมุมมองผมผู้ที่จะซื้อแฟรนไชส์ นอกจากจะได้รับผลตอบแทนแล้ว
(เฉพาะจากกิจการที่ดี) ยังได้เรียนรู้ know-how และวิธีการทำงานของเจ้าของแฟรนไชส์อีกด้วย
(หากเค้าเปิดเผย) ซึ่งทำให้ในอนาคตสามารถมาเริ่มธุรกิจแบบเดียวกันได้อีก
ก็ยังมีทางด่วนอีกหลายหลายทางนะครับ เราไม่จำเป็นต้องใช้ทุกทางแค่เลือกทางที่ถนัดและใช่สำหรับเรา
แล้วเริ่มจากจุดนั้น ก็พอแล้วครับ
#YESCLUB #KAL #BUSINESS STARTUP #ทางด่วน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น