10 กลยุทธ์ทำ branding ง่ายๆ
สำหรับใครก็ตามที่กำลังจะทำงานในสายการตลาด หรือว่ากำลังทำอยู่ หรือแม้แต่กำลังจะทำแบรนด์สินค้าของตัวเอง คงจะเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องทำแบรนด์ของเราให้ติดตลาดและเป็นที่น่าสนใจของลูกค้าเพราะว่าหากแบรนด์ของเราไม่เป็นที่จดจำหรือregister ในหัวของลูกค้าแล้ว ต่อให้สินค้าดีอย่างไรก็คงจะไม่สามารถทำกำไรให้กับเจ้าของแบรนด์ได้อย่างยั่งยืน ทีนี้เรามาดูกันว่าเราควรจะเริ่มทำกลยุทธ์สร้างแบรนด์อย่างไรได้บ้าง
ชื่อต้องดี จำง่าย: อย่างแรกเลยที่ต้องมีหลังจากเราได้สินค้าคือ ชื่อแบรนด์ ชื่อสินค้า และหากให้ดีควรจะเป็นชื่อที่จำง่ายๆอ่านง่ายสะกดง่าย เพื่อให้ลูกค้าของเรานั้นสามารถอ่านและจดจำได้ง่าย และยิ่งหากเป็นชื่อที่มีความหมายตรงกับสินค้าด้วยจะยิ่งดีเชียว
โลโก้สอดคล้องกับชื่อ: เมื่อได้ชื่อที่ดีมาแล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือการต่อยอดหาสัญลักษณ์หรือ โลโก้มาให้เข้ากันกับชื่อและสินค้าของเราจะทำให้เราสามารถทำตลาดและทำแบรนด์ได้ง่ายขึ้น เพราะว่าเราสามารถใช้โลโก้นั้นทำแบรนด์ได้โดยไม่ต้องมีชื่อติดไปด้วยก็ยังได้
สโลแกนสื่อถึงความหมาย และบอกประโยชน์ของสินค้า: ต่อเนื่องกันมาจากชื่อและโลโก้ การหาสโลแกนที่ดี จำง่ายๆและบอกถึงลักษณะของแบรนด์ได้นั้นจะเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้บริโภคจดจำเราได้อย่างไม่ยากเลย
แพ็คเกจดูดี: เมื่อได้ชื่อมาแล้วการทำแพ็คเกจให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์และสื่อความหมายต่อผลิตภัณฑ์และแบรนด์ของเราได้จะเป็นการที่ทำให้เกิดการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพได้อย่างยิ่ง
ต้องมี segmentation และ positioning ที่ชัดเจน : ประเด็นสำคัญที่มากกว่าชื่อและโลโก้คือการเข้าใจ segment ตลาดและเข้าใจ positioning ของแต่ละแบรนด์ในตลาด สิ่งนี้เป็นเรื่องสำคัญมากๆในการทำแบรนด์ เพราะว่านักการตลาดหลายคนมักจะติดกับตรงนี้ ไม่สามารถแบ่ง segment ออกได้ หรือแบ่งได้แต่ไม่สามารถเข้าใจผู้บริโภคได้ชัดเจน ทำให้กลยุทธ์ต่อจากนี้เป็นเรื่องยากลำบากและจำเป็นต้องมาแก้ไขกันอีกยืดยาว การแบ่ง segment นั้นสามารถทำได้หลายวิธี อาจจะแบ่งง่ายๆด้วยเพศ ชาย หญิง หรือเพศอื่นๆ, อายุ, การศึกษา, หรือว่าถิ่นฐานที่อยู่ ได้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับตลาดและสินค้า ในบางสินค้านั้นอาจจะต้องแบ่งตลาดเป็นเรื่องของ need segmentation ด้วยซ้ำ
สร้าง identity: เมื่อเราได้ position ที่ชัดเจนในตลาด สิ่งที่ต้องสร้างคือเอกลักษณ์ของแบรนด์เรา ว่าเราต้องการให้แบรนด์มีจุดเด่นในแง่ของภาพลักษณ์อย่างไร และในตลาดผู้บริโภคมีลักษณะพฤติกรรมแบบไหน และต้องการเห็นแบรนด์เป็นแบบไหน ดังนั้นเมื่อเราเข้าใจผู้บริโภคแล้ว เราก็จะสามารถกำหนด identity ให้ชัดเจนได้
ต้องมี personality ที่ชัดเจน และแตกต่าง: สิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในการทำแบรนด์ก็คือสร้าง personality ให้กับแบรนด์ เฉกเช่นเดียวกันกับคนที่ต้องมีบุคลิกที่แตกต่างและชัดเจน แบรนด์ใดๆก็แล้วแต่ที่มีบุคลิกไม่ชัดเจน หรือว่าเป็นบุคคลิกที่ไม่โดดเด่นออกมา การทำแบรนด์จะเป็นการทำที่ยากมาก ดังนั้นนักการตลาดจำเป็นต้องหา personality ของแบรนด์ออกมาให้ได้
หาช่องว่างของ Brand กับคู่แข่งให้เจอ: แต่ก่อนที่เราจะหา personality ของแบรนด์ได้ เราต้องรู้ก่อนว่าคู่แข่งเรายืนในจุดไหนกันบ้างแต่ละ brand นั้นมีความหมายมี personality อย่างไร และหากมีแบรนด์คู่แข่งสามารถยึดหัวหาดของ personality นั้นๆได้อย่างชัดเจน หากเราต้องการทำแบรนด์เพื่อไปแทนที่ตรงนั้นได้ จะต้องเป็นงานที่ค่อนข้างลำบากทีเดียว
สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า: สิ่งสำคัญที่จะกำหนดกลยุทธ์ก็คือ consumer insight หรือความเข้าใจผู้บริโภคและเมื่อเราเข้าใจดีแล้วเราจะสามารถกำหนดกลยุทธืทั้งหมดที่ได้กล่าวมาแล้วอย่างตรงเป้าตรงประเด็น ดังนั้นการทำ marketing research เพื่อให้เข้าใจผู้บริโภคนั้นจำเป็นเป็นอย่างยิ่ง
ทำอย่างต่อเนื่อง: สุดท้ายแล้ว ต่อให้เราทำมาดีแค่ไหน การทำกิจกรรมต่างๆ การสื่อความหมายต่างๆอย่างต่อเนื่องเป็นเรื่องสำคัญทั้งสิ้นเพื่อให้แบรนด์เรานั้นได้สื่อความหมายที่ต้องการออกไปอย่างต่อเนื่องและทำให้ผู้บริโภคสามารถรับรู้และเข้าใจแบรนด์ของเราได้เป็นอย่างดี
ก็เป็นตัวอย่างง่ายๆนะครับสามารถลองไปทำกันเองได้ ซึ่งที่สำคัญเลยคือเราต้องเข้าใจผู้บริโภคให้ดีว่าเค้ามีพฤติกรรมอย่างไร และหาเราเข้าใจดีแล้ว เราจะสามารถกำหนดกลยุทธ์ได้อย่างแม่นยำถูกต้องได้ครับ
YES Club (Young Entrepreneur Society)
#branding #กลยุทธ์ทำแบรนด์ #หลักการทำแบรนด์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น